Friday, June 27, 2008

ดวงตาที่ว่างเปล่า

วันนี้ระหว่างนังฟังเพลงแล้วก็ config ระบบไปด้วย ปกติเวลา config ระบบที่มีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว ผมมักจะทำไปพร้อมๆ กับการเปิดเพลงกระแทรกรูหู จริงๆ คือฟังเพลงไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ แต่มันก็ทำให้ผมไม่วอกแวกกับเสียงต่างๆ รอบข้าง ดนตรีมันมีจังหว่ะและทำนอง ถีงเราไม่ได้ตั้งใจฟังก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันทำให้จังหว่ะการเต้นของหัวใจสม่ำเสมอ ร่วมถึงการทำงานมันค่อยข้างจะต่อเนื่อง ผมก็เห็นนะว่ามีคนมาเดินๆ รอบๆ คุยกันอะไรซักอย่างให้เห็นแว๊บๆ อยู่นานพอควร แต่ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจ สักพักคณะนั้นก็มาหยุดอยู่ที่หน้าผม ด้วยความที่พี่สาวจ้องมาที่ผม ผมเลยต้องถอดหูฟังออก แกถามผมว่าเค้ามาเดินทำอะไรกันนี้ไม่สนใจเลยนะ ผมขยับปากกำลังจะตอบ (จริงๆ คือไม่รู้จะตอบอะไรเพราะไม่ได้สนใจจริงๆ) ช่วงจังหว่ะนั้นเองที่เค้ารอคำตอบ สักพักในหนึ่งชั่วขณะจิต แกก็เอยมาบอกว่า "ด้วงตาเอ็งนี่โคตรว่างเปล่าเลยหว่ะ" แล้วก็เดินจากไป ผมก็จัดแจงเสียหูฟังแล้วก็ทำงานที่ผมทำค้างอยู่ต่อไป ไม่ได้ใส่ใจอะไร พองานเสร็จผมถึงได้มีโอกาสถามว่าเค้ามาทำอะไรกัน ท้ายที่สุดผมติดใจตรงดวงตาที่ว่างเปล่านี่แหละ มันเป็นยังไงหว่า มองตานี่ทะลุไปถึงความคิดที่กรวงโบ๋ในขณะนั้นเลยเหรอ? จะบอกว่ามันว่าเปล่าเฉพาะกับเรื่องที่พี่ถามผมเท่านั้นแหละนะ แต่ความจริงๆ ดวงตาที่ว่าเปล่าคู่นี้ซ่อนความสับสนไว้ภายใน อย่างที่พี่สาวของผมคนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลยแหละ :P

>> วันนี้พี่ที่ office มาคุยด้วยเรื่อง SPAM mail
พี่: เห้ยช่วงนี้ spam เยอะมากเลยหว่ะ ลูกค้าโทรมาด่า ว่า spam ไวอะก้าเยอะมากเค้าไม่ต้องการ
ผม: พี่มันก็มีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ อีกอย่างบางคนอาจจะอยากอ่านก็ได้
พี่: เห้ย ลูกค้าพี่เค้ามีลูกแล้วเว้ย ไม่ต้องการไวอะก้าแล้ว
ผม: เกี่ยวอะไรพี่
พี่: ก็เกี่ยวดี มีลูกแล้วจะเอาไวอะก้าไปทำไม
ผม: พี่เค้าไว้เพื่อความบันเทิงไม่ใช่เหรอ?
... เสียงหัวเราะเกลียวเกิดขึ้นรอบๆ ...
.ผมกับพี่ สลายตัวในบัดดล ดันจะโกนคุยกัน ลั่น office ... เสียภาพลักษณ์หมด 55

No comments: