....อีกครั้งนึงนี่มีโอกาสได้ปล่อยความรู้สึกล่องลอยไปกับสายน้ำ (เวอร์ไปนิ๊ดดด แต่ก็น่าจะพอได้) เพราะวันนี้ได้มีโอกาสใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาอีกแล้ว ผมชอบการนั่งเรือเหมือนกันแฮะแรกๆ คือมันเรื่อยๆ ดี คือแล่นไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีจังหว่ะต้องหยุดชะงัก นอกจากการจอดตามท่าเรือซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ยังไงซะก็ไม่มีติดไปแเดงแน่ๆ และโดยปกติผมไม่ค่อยมายืนเกาะขอบเรือดูวิวเท่าไหร่ด้วยแฮะ ถึงจะนั่งมาบ่อยก็เหอะ แต่วันนี้มีเหตุให้ต้องไปยืนเกาะ เพราะคนมันเต็ม พอเรือเริ่มแล่น ลมเริ่มกระทบใบหน้า สายน้ำกระซ่านเซ็น อากาศเย็นสบาย เท่านั้นแหละครับพี่น้อง ใจก็เริ่มลอย ...
....ที่ท่าสี่พระยา ครั้งนึงเคยมานั่งกินไอติมกับเพื่อน คราวนั้นทำให้รู้ว่า เห้ย ไอ้ติมซะเวนเซ่น กินกับกล้วยอะหร่อยดีแฮะ (ทำไมตูไม่เคยกินวะ) ฝั่งตรงข้ามคือคลองสาน เป็นแหล่งชอบปิ้งแบบแบกะดิน อีกที่ของคนย่านนี้
....ที่ท่าราชวงค์ เดินไปหน่อยก็จะเป็นเยาวราช ครั้งนึงเคยมีคนพาพวกเราท่องเที่ยวกินอาหารบนถนนเยาวราช กินไปหลายๆ อย่างตามที่คนนำบอกอร่อย สุดท้ายจบที่ข้าวขาหมู เค้าบอกผมว่า เห็นว่าผมชอบข้าวขาหมู เลยพามาเป็นที่ปิดท้าย คุณรู้มั๊ยครับ อาหารอย่างเดียวที่ผมไม่ได้กินในวันนั้นคือ ข้าวขาหมู เพราะผมกินไม่ลงแล้ว มันอิ่มซะเหลือเกิน เวรจริงๆ -_-"
....ท่าเรือสะพานพุทธ ก็ต้องเป็นสะพานพุทธ แหล่งชอบปิ้งในยามค่ำคืน สะพานพุทธยังคงเปิดไฟส่องสว่าง สวยเด่น เคยอยากจะสะพายกล้องมาถ่ายรูปซักที แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ทำ ..
....ท่าเตียน เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสมาที่วัดแจ้ง หรือวัดอรุณ ผ่านไปผ่านมาหลายที ชิวิตนี้ก็เคยได้มา ก็คราวนี้แหละครับ เออ ขอบอกว่า มันสูงจริงๆ ผมกลัวความสูงนะ คุณคงดูออก ถึงผมจะบอกว่าไม่กลัว ก็แค่ไม่ชอบเท่านั้นเอง ที่ท่านี้มีร้านอาหารแนวๆ อินดี้ เป็นอีกร้านที่พักพวกเคยแวะเวียนมานั่งชมบรรยากาศอยู่พักนึง
....ท่าวังหลัง (ศิริราช) ท่านี้ผมไม่เคยลง แต่ฝั่งตรงข้ามเป็นท่าพระจันทร์ จำได้ว่าเคยไปเดินตามหาร้านที่บุญชู เค้าชอบไปกินกัน แต่ไปซะมืดเลยไม่เจอ มีร้านหนังสือที่ได้ยินชื่อบ่อนมาก คือร้านน้อง ท่าพระจันทร์ (ร้านจริงๆ ไม่ใหญ่อยากชื่อ) แล้วก็ร้านนานอินทร์ เดินออกมาหน่อยมีที่กินเบียร์บรรยากาศแจ่มๆ คือราชนาวีสโมสร (ใกล้ท่าช้างมากกว่า) แล้วก็ร้าน ช.ปะทุมทอง ตรงข้ามวัดพระแก้ว หน้าพระลาน ..
....ท่าพระอาทิตย์ เดินทะลุออกถนนพระอาทิตย์ ต่อกับป้อมพระสุเมร เคยมานั่งแหงนคอดูดาว ในความวุ่นวาย บางครั้งแค่แหงนคอดูดาว เราก็แทบจะหลุดออกจากความวุ่นวายทั้งหมดแล้ว มีแค่คุณกับผม แล้วก็ท้องฟ้า และดวงดาว โอ้ว เวอร์อีกแล้วตรู ก่อนจะเดินละเลียดไปยังร้านกินลมชมสะพาน บรรยากาศสุดคลาสสิค ยังกะความฝันเลยหล่ะคุ๊นน ... เอ้อ เลยไปไกลแระ ตรงข้ามป้อมมีร้านมาตะบะเจ้าดั้งเดิม ตอนนั้นไม่รู้จักน้ำเสาวรส แต่คนมาด้วยเค้าบอกเค้าชอบกิน พอกินดู น้ำอะไรฟะ เปรี๊ยวชมัด ไม่เห็นมันจะอร่อยตรงไหนเลย -_-"
....ท่าเรือซั้งฮี้ (สะพานกรุงธน) ฝั่นธนจะมีร้านสองร้านคือ river bar กับ water front ครั้งแรกจะไป river bar แต่คนเต็มเลยจบที่ water front เป็นร้านอาหานที่บรรยากาศดีมากๆ ที่นึง หลังๆ มาระแวกนี้ทีไร ก็จะจบที่ water front ทุกที ความทรงจำเกียวกับร้านนี้เยอะมาก blog เดียวเอาไม่อยู่หรอก :P
....ท่าบางโพ ตรงข้ามหรือเยื้องๆ เป็น ร้าน To-sit peir 92 ร้านนี้ก็บรรยากาศดี ผมมาบ่อยอยู่ช่วงนึง หลังๆ ไม่ค่อยได้มาแล้ว เพราะเพื่อนๆ บอกว่ามันแพง แล้วก็บริการไม่ค่อยดี ตั้งแต่คนเริ่มเยอะ อะไร ๆ ก็ดูแย่ไป ถ้ามาทางถนน คือซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ใกล้ๆ โรงบาลยังฮี ..
....ท่าเรือพระราม 7 มีร้านอาการอิสาร นั่งกินกับพื้น มีโต๊ะญี่ปุ่นให้ตัว เคยมานั่งกินกับน้องๆ ทีนึง มันถามผมว่า "พี่ ผมเลิกกับแฟน แล้วเค้ายืมตังผมไป ผมควรจะทวงคืนมั๊ยครับ" .. ท่าเรืออยู่ฝั่นธน ส่วนเชิงสะพานฝั่งพระนคร เป็นที่ชุมนุมของ นศ. คณะวิดวะ สถาบันเทคพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เค้าว่ากันว่ามีธรรมเนียมอยู่อย่าง เวลาเรียนจบต้องไปกะโดดแม่น้ำเจ้าพระยา ผมไม่ได้โดดกับเค้าหรอก คือว่ายน้ำไม่เป็นอะ ...
....หลังจากท่าพระราม 7 เรือธง จะวิ่งตรงไปยังท่าน้ำนนท์นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เรือวิ่งโดยไม่ค้องหยุดจอด ยาวนานที่สุด ในความรู้สึกของผม คงเพราะมันใกล้จะถึงที่หมาย เพราะเราไม่มีอะไรให้ต้องเหลือตกค้างในความทรงจำแล้ว หรือเวลาชิวิตจะถึงฝั่ง เราจะรู้สึกันแบบนี้นะ สองข้างทางช่วงนี้มึดมิดเป็นพิเศษ มีเสียงเรือ มีเสียงน้ำ มีแสงดาว แถมยังเป็นช่วงเวลาที่คนเหลือบนเรือน้อยที่สุดด้วย ในวันที่เราใกล้ถึงจุดหมาย คนข้างกายมันย่อมลดน้อยลงเช่นนั้นหรือ หรือชิวิตมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำไมมันดูแย่จัง ...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment