Sunday, July 13, 2008

เข็มทิศชีวิต

เข็มทิศชีวิต หนังสือเล่มนี้ได้มาจากน้องคนนึงเมื่อวันเกิดที่ผ่านมา (สักปี) ผมไม่เคยแกะออกมาดูเลย วันนี้เหลือบไปเห็นริบบิ้นยังผูกไว้อย่างดี แต่สภาพหนังสือมันไม่ใหม่สักเท่าไหร่ คงด้วยระยะเวลาที่มันวางอยู่กอปรกับสถานที่ที่มันวางยิ่งส่งเสริมให้มันดูเก่า เก่าเกินกว่าจะเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยหยิบมาอ่าน แล้วมันก็ทำให้ผมละลึกไม่ได้ด้วยว่ามันมาด้วยวันเกิดปีไหนกันแน่ ตอนเค้าให้มาเค้าไม่ได้หมายความว่าผมเป็นพวกเคว้งคว้างไม่มีจุดหมายหรอกนะ แต่เค้าบอกว่าเค้าอ่านแล้วมันดี ก็เลยอยากให้ผมได้อ่านบ้าง หนังสือขายดีขึ้นหิ้งร้านนายอินทร์มานมนานแล้วแหละครับ เล่มที่ผมมีอยู่ก็พิมพ์ครั้งที่ 47 เข้าไปแล้ว ป่านนี้คงทะลุ 50 ไปแล้วมั๊ง วันนี้มันสะดุดตาผมเท่านั้นแหละ เลยหยิบออกมาเป่าๆ ปัดๆ หน่อย แต่ทันทีที่จะแกะริบบิ้นออก มันคงเป็นไปไม่ได้ ที่ผมจะอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วมีอารมณ์ร่วมกับมัน หรือเห็นคล้อยตามกับมันเป็นแน่ หนังสือคงเป็นการใช้ธรรมมะ มาเป็นเครื่องมือในการใช้ชิวิต (ผมเคยได้ดู TV แล้วคนเขียนเค้ามาพูดถึงหนังสือเล่มนี้ เมื่อไม่นานนี่เอง) ธรรมมะกับผม ถึงจะพอไปด้วยกันได้ แต่ให้ตายเหอะ ผมยังไม่สามารถสลัดความคิดบางอย่างออกไปจากจิตใจได้ ถึงบางห้วงผมจะไม่ได้คิดอะไรเลยในหัว แต่การไม่คิดอะไรเลย มันก็ไม่ได้หมายความว่าจิตมันจะว่างไปในทางเดียวกับที่ท่านพุทธฑาต ท่านว่าไว้ในหนังสือเรื่องจิตว่าง มันกลวงโบ๋ร่องลอยพิกล อาการแบบนี้เกินกับผมมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเกิดอาการแบบนี้ทีไร ผมก็จะค่อยๆ พิจารณามันทุกที ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของผมนะ มันเกิดอะไรขึ้นกับความคิด ความรู้สึก ไม่ว่าจะต่อสิ่งที่มากระทบ สิ่งรอบๆ ตัว หรือสิ่งที่อาจจะต้องเผชิญกับมันในวันรุ่งขึ้น หรือผมเป็นคนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ไม่เคยอยากได้อะไรเป็นรูปธรรม ทำให้การมีชิวิตอยู่มันดูเหมือนไม่จำเป็นกับผมด้วยซ้ำ จนวกเข้าคำถามยอดนิยมคือ "มีชิวิตอยู่เพื่ออะไร?" เอ หรือมันถึงเวลาที่ผมต้องอ่าน เข็มทิศชิวิตแล้วนะ...

No comments: