Sunday, April 15, 2007

แสงศัตวรรษ

ณ. วันเวลานี้ ยังมีปัญหาคาราคาซังระหว่างกองเซ็นเซอร์กับผู้กับกับภาพยนต์เรื่อง 'แสงศัตวรรษ' (ภาพยนต์โดย คุณ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เคยทำหนังเรื่องสัตว์ประหลาด คว้ารางวัลจากต่างประเทศมาแล้ว แต่ผมเอง ไม่เคยดูหนังของเค้าหรอกครับ) ปัญหาคือหนังเรื่องล่าสุดที่ว่า จริงๆ ก็ได้ผ่านตาชาวโลกมาบ้างแล้วเหมือนกัน แต่พอจะลงโรงฉายจริง (ได้ข่าวว่าเป็นโรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์เพียงสองโรงเท่านั้น) กลับไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ด้วยเงื่อนไขใจความ 4 ประเด็นหลักๆ คือ ภาพในหนังฉากพระเล่นกีต้า พระเล่นเครื่องร่อน หมอดื่นเหล้า หมออวัยวะเภทแข็งตัว ได้ติดตามสาระของเรื่องพวกนี้เบื้องต้น มันก็น่าขันดีสำหรับผม มันมีอะไรแปลกวะ ให้ตายตายเหอะ เรื่องเห่ยๆ ที่พระทำมันมีมากกว่านี้อีกตั้งมากมายก่ายกอง ทุกคนรู้ผมเชื่ออย่างนั้น พระทำโน่นทำนี่แปลกประหลาด กระทั่งข่มขืนสีกา มาใส่ใจอะไรกับการเล่นกีต้าร์ เล่นเครื่องร่อน ขัดกับจริยวัต อันสำรวมของพระสงค์งั้นหรือ? ผมไม่ได้แอนตี้ศาสนาพุธครับ แน่นอน ผมก็ชาวพุธคนนึง ศาสนาพุธสอนให้เราปรับตัวให้เข้ากับโลกมิใช่หรือ คุณกลัวอะไร? คุณกลัวว่าศาสนาจะเสื่อมเพราะการเผยแพร่เรื่องพวกนี้ออกไปสู่สายตาคนงั้นหรือ? ศาสนาพุธในสายตาคุณมันเสื่อมไปตั่งแต่คุณคิดแบบนี้แล้วครับ เหล็กดีต้องทนไฟ ศาสนาก็คงไม่ต่างกัน สังคมจะเป็นเบ้าหลอมศาสนาให้ปรับเปรียนพฤติกรรมตามความเหมาะสม โดยที่แก่นแห่งศาสนายังคงเดิม เหมือนหนังสือที่เปลี่ยนปกแล้วพิมพ์ขายใหม่โดยที่เนื้อหายังคงเดิม อย่ากลัวศาสนาจะเสื่อมเพราะเรื่องพวกนี้เลยครับ ไม่งั้นมันไม่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้หรอก หมออีกก็เรื่องอะไรกัน หมอเป็นพระเจ้าหรืออย่างไร ถึงจะไม่สามารถมีพฤติกรรมแบบคนทั่วไปได้ แล้วไอ้หมอเลวๆ ที่มันเลี้ยงไช้คนไข้ ที่มันหากินกับอวัยวะคนนั่นเล่า มันเป็นหมอหรือเปล่า? ผมเคยคิดนะว่าอาชีพที่หากมีการตัดสินจำคุก หมอนี่แหละที่ผมจะอนุโลมให้ ไม่ต้องไปอยู่ในห้องขัง อยากให้ไปทำงานรักษาคนไข้ดีกว่า มันเป็นอาชีพที่สูงส่ง เหมือนอาชีพครู ถ้าครูทำให้คนเป็นคน หมอก็ทำให้คนยังเป็นคนอยู่เช่นกัน

ณ. วันเวลานี้ ก็น่าจะได้ข้อสรุป เพราะเจ้าของหนังยืนยันว่าไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์ก็ไม่เป็นไร เค้าก็จะไม่ฉายหนังเรื่องนี้ เพราะการตัดบางส่วนออกไปนั้น มันทำให้เสียความเป็นหนังในความตั้งใจของเค้าไป ติสสุดๆ ผมเข้าใจนะ ว่ามันเป็นอารมณ์ยังไง เราไม่ใช่คนอดอยาก ที่หากินกับงานที่ทำ มันอาจจะเป็นงานที่ทำเพื่อนสนองความต้องการทางจิต มากกว่าทางร่างกาย ถ้ามันไม่ได้อย่างใจคิด ก็เก็บไว้แล้วกัน ทำมันแล้วนี่ ปัญหาสุดท้ายคือกองเซ็นเซอร์ไม่ยอมคืนฟิมล์หนังให้ อ้างว่าเอาไปตัดฉากที่ว่าออกก่อน แล้วจะคืนให้ โอ้วว ประเทศไทย เป็นอะไรไปเนี๊ย หรือมันเป็นของมันมาตั้งนานแล้ว ผมต่างหาก ที่ไม่เข้าใจ แปลกแยก ...

No comments: