Saturday, April 12, 2008

เมื่อนึกย้อนกลับไป ก็ไม่รู้จะขอบคุณมันยังไง

ในชิวิตเรามันเรื่องอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้นแหละ คือเรื่องที่เราควบคุมได้ และเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ เราจะรู้ว่าเรื่องที่ว่ามันจะเป็นเรื่องไหน ก็ต่อเมื่อเราเริ่มจะควบคุมมัน แต่บางครั้งถ้าเราปล่อยวาง ปล่อยให้มันลองลอยไร้สภาพการควบคุม เราก็จะไม่ได้นึกถึงว่า มันควบคุมได้ไหม ทีนี้พอเรื่องมัน ล่องลอยสักพัก เราจะเริ่มจับทิศทางของมันได้ แต่จะเปลี่ยนไปทันที ที่เราเริ่มจะไปควบคุมอีกครั้ง
เส้นทางที่คุ้น มันก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงใหม่ ทฤษฎีของเราคือ เราจะไม่ไปควบคุมมัน แต่จะเริ่มจาก การควบคุมตัวเอง เพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของมัน เมื่อสองสิ่งเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน แรงในตอนนั้นน่าจะเรียกว่าแรงเหวี่ยงรักษาสภาพการโคจร ถ้าเราใช้เวลากับวงโคจรนี้นานพอ จากนั้นเราจะเริ่มควมคุมมันได้ ไม่ได้หมายความถึงการควบคุมสิ่งนั้นนะ แต่หมายถึงการควบคุม
ตัวแปรต่างๆ เพื่อให้สภาพวงโคจรมันยังคงอยู่ และถ้าเราใช้เวลาในการเก็บตัวแปรได้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะรักษาวงโครจรได้นานมากขึ้นเท่านั้น

แน่นอนในหนึ่งช่วงชิวิต เราอาจจะมีโอกาสไปอยู่ในหลายๆ วงโคจรที่มีตัวแปรแตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน และไม่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ แต่ทุกครั้งมันเกิดการเรียนรู้ เราดีขึ้นเสมอ เราได้รับการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือแม้กระทั่งโอกาสได้เจอสิ่งใหม่ๆ ถ้ามีพรให้เรากลับไปแก้ไขอะไรก็ได้ในอดีต เราจะไปแก้ไหม คำตอบคงเป็นไม่ เราพอใจกับทุกๆ อย่างที่ผ่านเข้ามา กับทุกคนๆ ที่ได้มีโอกาสพบเจอ แม้นมันจะดีบ้างไม่ดีบ้าง มันก็ล้วนเป็นความทรงจำให้นึกถึงเสมอ ถ้ามันแย่เราต้องทำให้มันดี หรือไม่ก็อย่าทำมัน ถ้ามันดีเรายังมีสิทธิ์ทำให้มันดีกว่านั้น โอกาสในตอนนี้มันยังเป็นของเราเสมอ นั่นต่างหากคือสิ่งที่เราต้องคิดว่าจะทำหรือไม่ทำมัน

"เมื่อนึกย้อนกลับไป ก็ไม่รู้จะขอบคุณมันยังไง"

No comments: