Thursday, August 21, 2008

หรือ เพียงเพราะใครบางคน?

เคยถามตัวเองไหม ว่าชอบอะไร ชอบกินอะไร ชอบเที่ยวแบบไหน มันอาจจะดูพื้นๆ ทั่วๆ ไป แต่สำหรับผมแล้ว ผมกลับไม่เคยตอบคำถามพวกนี้ได้เลยแฮะ พอลองนึกย้อนไปแล้วก็ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เราเองกลับค้นหาไม่เคยเจอคือตัวเอง ไม่เคยพิจารณาความรู้สึกของตัวเอง ชอบเหลือเกินการเอาชิวิต ความรู้สึก ไปผูกไว้กับคนอื่น ชอบอย่างที่เค้าชอบ เป็นอย่างที่คิดว่าเค้าอยากให้เป็น ทำอะไรหลายๆ อยากที่เค้าอยากให้ทำ (แต่เรื่องบางอย่างให้ตายเหอะหว่ะ มันทำไม่ได้จริงๆ เลย โดยเฉพาะเรื่องของนิสัยใจคอเนี๊ย) จริงๆ แล้ว เราเป็นตัวเองได้มั๊ยนะ สมมุติว่าเรารู้นะว่าตัวเราเป็นยังไงชอบอะไร เคยบอกใครๆ ว่าชิวิตผมไม่เคยมีอะไรที่ชอบ มีแต่เฉยๆ กับรู้สึกไม่ดีกับมัน โดยเฉพาะอาหาร มีแต่ ok กลับไม่ได้เรื่อง สัมผัสได้แต่สิ่งที่ไม่ดีหรือไงเนี๊ย? หลายๆ อย่างผมก็ติดมาจากใครบางคน คือมีใครบางชักนำให้ให้ไปเจอ แล้วมันก็รู้สึกดี อย่างไอ้การมานั่งเขียนอะไรเรื่อยเปลื่อยแบบนี้ก็เหมือนกัน ครั้งนึกเคยไปแอบชอบนักเขียนเข้า มันก็ทำให้ผมลองเขียนๆ อะไรเรื่อยเปลื่อย วันนึงมันก็ติด และรู้สึกว่ามันก็ดีเหมือนกันแฮะ ครั้งนึงผมไม่ชอบการเดินห้าง เดินตลาดนัด พอมีคนชักนำให้ผมไปเดินบ่อยๆ เข้า เออ มันก็ดีเหมือนกันแฮะ อย่างน้อยก็ได้เจอสาวๆ บ้าง :P 55 แต่ไอ้เขียนโปรแกรมนี่ไม่ใช่นะ ผมเขียนมานานแล้ว

-- นานมาแล้วได้คุยกับน้องคนนึง
ผม: ทุกวันนี้เราถ่ายรูปด้วยนะ ถ่ายมานานแล้ว
น้อง: จริงดิ ไหนให้เราดูหน่อย
ผม: (ส่ง Link ไปให้ดู)
น้อง: พี่ก็ถ่ายรูปสวยดีนะ แต่เราชอบเรื่องที่พี่เขียนมากกว่า ..

อืมม เรื่องที่ผมเขียนมันเป็นยังไงนะ มันคงไม่สนุกเท่าได้มานั่งคุยกันหรอกมั๊ง ว่ามั๊ย?
พักนี้ผมไม่ค่อยได้เขียนอะไรแล้วแหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องจะเขียนหรอก วันๆ มันก็มีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้เขียนถึงเสมอแหละ แต่เชื่อมั๊ย ทุกครั้งที่ผมเขียนเสร็จ ผมกลับลบมันทิ้งไป โดยที่ไม่ได้เอามา post ลงที่นี้ด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เพราะ ผมเบื่อ หรือมีปัญหาอะไรกับชิวิตหรอกนะ เพียงแต่พอเขียนมาถึงจุดนึง ผมเริ่มรู้สึกว่า จริงๆ แล้ว มันใช่ผมหรือเปล่านะ ไอ้คนที่มานั่งพรรณนาอะไร เรื่องเปลื่อยแบบนี้ ดูมันขัดกับชิวิตส่วนอื่นของผมค่อยข้างมาก หรือไม่มันก็คือตัวผม ส่วนที่เหลือ มันก็แค่เพราะใครบางคน ทำให้ผมต้องแสดงภาพเหล่านั้นออกมา เท่านั้นเอง ...

Monday, August 04, 2008

เรื่อยเปลื่อย ไปวันๆ

หลายๆคนบอกฉันว่าสิ่งที่เรามีเท่ากันคือเวลา
พอฉันถามว่าเท่ากันยังไง ตายช้าเร็วไม่เท่ากัน
เค้าตอบฉันว่าเท่ากันคือวัน หนึ่งวันเท่าๆ กัน
หนึ่งวันของใครก็เท่ากันทั้งนั้น หรือไม่จริง
ฉันยอมรับในหน่วยตามวิทยาศาสตร์มันเป็นอย่างนั้น
แต่ความเป็นจริง มันไม่เคยเท่ากันหรอก
ในความรู้สึกของแต่ละคน
คนที่รอ เวลามันช่างยาวนาน ..
คนที่รีบ เวลามันช่างรวดเร็ว ..
เวลาหดหู่เศร้าหมอง เวลามันก็เนิ่นนาน ..
แต่เวลามีความสุข เวลามันก็รวดเร็ว ..
หรือไม่จริง ...
เค้าบอกฉันว่ามันไม่เกี่ยวกับเวลาหรอก ..
มันอยู่กับสิ่งที่ฉันจดจ่อ หรือใส่ใจ
เวลามีความสุข เค้าถามฉันว่าฉันเคยมองดูเวลามั๊ย
หรือเคยรู้สึกมั๊ยว่าเวลาแห่งความสุขมันจะหมดเมื่อไหร่
พอเราไม่สนใจอะไรๆ มันก็ผ่านไปเร็ว ไม่เว้นแม้แต่เวลา
แต่พอมีความทุกข์เรากับจดจ่อกับเวลา ว่าเมื่อไหร่มันจะพ้นไป
พอเราจดจ่อ มันก็เนิ่นนาน มันเป็นอย่างนั้น ..
เค้าบอกฉันว่ามันเป็นอย่างนั้น
จริงหรือที่เวลามีความสุขเราจดจ่อกับความสุข
จนลืมเวลา ..
และเวลามีความทุกข์เราจดจ่อกับเวลา
จนลืมไปว่า เวลาของความทุกข์
แท้จริง มันอาจจะหมดไปตั้งนานแล้วก็ได้ ...

Sunday, August 03, 2008

JUNO

วันนี้หยิบหนังแผ่นนี้มาดู เป็นหนังที่อยากดูมาตั้งแต่ตอนมันเข้าโรงแล้ว เรื่องราวของสาวน้อยวัน 16 ที่เผอินตั้งท้อง เธอเลือกที่จะไม่ทำแท้ง และหาครอบครัวที่เธอคิดว่าเหมาะสมมารับเลี้ยงดูเด็กคนนั้น และในช่วงเวลาของการอุ้มท้องนั้งเอง มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ความเป็นจริงของชิวิตคู่ ความเป็นจริงของความรัก ไม่ใช่แค่ฉากหน้าที่ดูเลิศหรู เหมาะสม แต่ความรักจริงๆ คือความเข้าใจในสิ่งที่อีกคนเป็นต่างหาก ความเข้าใจของครอบครัวต่อลูกสาวแสนเปรี้ยวคนนี้เป็นอะไรที่น่ารักมาก เคยได้ยินใครบอกว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วอิ่มเอมใจ ผมเองก็คงรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน คุณรู้มั๊ยไม่ว่าปัญหามันจะยิ่งใหญ่ร้ายแรงแค่ไหน ถ้าใครซักคนเข้าใจเรา และอยู่เคียงข้างเราเสมอ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เราจะก้าวผ่านมันไปได้ ตอนนึงของหนังบอกว่า "การเดินทางสิ่งที่เรานับได้คือระทางที่เราเดินทาง แต่การผ่านพ้นของเวลา สิ่งที่เราได้คือประสบการณ์" เป็นหนังที่ดีเรื่องนึงใรความรู้สึกของผม

"In my opinion, the best thing you can do is find a person who loves you for exactly what you are. Good mood, bad mood, ugly, pretty, handsome, what have you, the right person will still think the sun shines out your ass. That's the kind of person that's worth sticking with." - คำพูดของ Mac Macguff (พ่อของสาวน้อย Juno ในเรื่อง)