ผมไม่ใช่นักเขียน ใช่ ผมเขียนอะไรยาวๆ เป็นเรื่องเป็นราวไม่เป็น ...
ผมไม่ใช่นักดนตรี ผมอ่านตัวโน๊ทแทบไม่เป็น เล่นดนตรีก็แค่พอเล่นได้ ไม่ถึงกับเล่นเป็น ...
ผมไม่ใช่สุดยอดโปรแกรมเมอร์ ผมอาจจะเขียนโปรแกรมได้หลายภาษา แต่ผมก็ไม่ได้เป็นเลิศในภาษาใดๆ ...
ผมไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ ก็แค่คนที่ชอบถ่ายภาพคนนึง มีกล้องเป็นของตัวเอง มีมุมมองเป็นของตัวเอง มี ego ...
ผมไม่ใช่กราฟฟิกดีไซต์ ผมใช้โปรแกรมตกแต่งภาพได้บ้าง แต่ก็ไม่เชียวชาญเป็นพิเศษ ...
ผมดูทำอะไรได้เยอะแยะไปหมด แต่ก็มีที่ผมยังทำไม่ได้สักที นั่นคือทำอะไรให้มันดีที่สุดซักอย่าง ....
Thursday, February 15, 2007
Wednesday, February 14, 2007
วันแห่งความรัก
ผมออกจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีอยู่พอสมควร คิดไปเองหรือเปล่า? อันนี้มันคงจะให้คำตอบลำบาก แต่เท่าที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยท้อแท้เพราะปัญหาอะไรก็ตามที่มะรุมสุมตัว หรือเพราะผมเลือกที่จะปล่อยมันไป แล้วบังเอิญผมทำได้ เลือกที่จะไม่ทำแล้วก็ไม่ทำอย่างที่เลือกจริงๆ พอใจมั๊ยกับสิ่งเป็น? ไม่เลย หลายครั้งดูเป็นคนทำอะไรไม่ถึงที่สุดด้วยซ้ำ เอ้าแล้วค่ำคืนของวันแห่งความรักมาพร่ำบ่นอะไรเรื่อยเปลื่อย ผมไม่ได้ไปไหนกับใคร หรือเพราะไม่มีใครจะไปด้วยก็ว่าได้ เลิกงานท้องเสีย ต้องแวะไปปลดทุกข์ที่ห้องน้ำห้างดังแถวลาดพร้าวอีกต่างหาก กลับมาถึงห้องเปิด True Vision ดูก็ได้ดูหนังที่เพื่อนๆ คนรอบข้างเชียร์นักเชียร์หนา "เพื่อนสนิท" ผมไม่ค่อยกล้าดูหนังเรื่องนี้ คงเพราะความกลัว กลัวมันจะหดหู่ กลัวมันจะเศร้าผมไม่ชอบเรื่องเศร้า มันชวนหม่นหมอง และผมจะหม่นหมองยาวนานกว่าปกติ เอาวะไหนๆ มันก็มาในเวลาที่ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าสวรรค์ต้องการให้ผมดู ผมก็จะดูมัน นั่งดูจนจบ เป็นหนังที่ดีอย่างที่เค้าว่ากันมา เรื่องราวของความรัก รักคนข้างๆ รักเพื่อน(สนิท) มันเป็นอะไรที่อึดอัดพิกล คนเขียนบททำได้ดี คนแสดงก็พอไปได้ ผมชอบตอนที่ ดากานดาพูดกับไข่ย้อย "นายมาทำอะไรตอนนี้" ช่ายตรงเลย มึงมาบอกอะไรกูตอนนี้ มึงจะให้กูทำไง ให้กูเลิกกับเค้ามันเป็นแฟนมึง มันคงเป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปได้แล้วมึงจะมองกูเป็นคนยังไง บางครั้งอะไรมันก็ไม่ได้เป็นอย่างคิด หวัง บางอย่างที่ผ่านเข้ามามีทั้งดี ร้าย สมหวัง ผิดหวัง วันเวลาทำให้เกิดกานเรียนรู้นำไปสู่ประสบการณ์ ตอนแรกเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า "รักคนที่เค้ารักเราดีกว่า" คงจะไม่เชิงเพราะ ดากานดา ก็ไม่ได้ไม่ชอบไข่ย้อย เพียงแค่เวลาและการก่อเกิดความสัมพันธ์มันเกิดกันคนละลักษณะ นุ้ยไม่ได้มาอย่างเพื่อน ไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ ฮาๆ อย่างเพื่อน โอกาสที่จะเป็นแฟนของนุ้ยเปิดมากกว่าของ ดากานดา บางครั้งอะไรๆ ในชีวิต มันก็เหมือนมีคนขีดเส้น ให้เราเริ่มต้น และสิ้นสุด ภายใต้สิ่งที่ควรจะเป็น มากกว่าสิ่งที่อยากให้เป็น ....
Tuesday, February 06, 2007
ไร้สาระ
"ทำไมชอบทำอะไร ไร้สาระ"
"ทำตัวให้มันดูดีหน่อยไม่ได้หรือไง"
"ชอบทำเป็นเล่น"
"จริงจังซักเรื่องได้มั๊ย"
อะไรคือสาระ ถ้ามันหมายถึงความมีคุณค่าต่อสิ่งที่ทำ แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำไปแล้วไม่มีสาระ นั่งดูบอลมีสาระหรือเปล่า? นั่งกินเบียร์ นั่งดูผู้คนตามป้ายรถเมล์มีสาระมั๊ย นั่งพิมพ์ blog เรื่อยเปลื่อยหล่ะ สาระมันอยู่ตรงไหน ถ้าสาระคือการได้ทำ ได้คิด ได้พูด อย่าเที่ยวไปหาว่าใครทำอะไรไร้สาระหล่ะ
"ทำตัวให้มันดูดีหน่อยไม่ได้หรือไง"
"ชอบทำเป็นเล่น"
"จริงจังซักเรื่องได้มั๊ย"
อะไรคือสาระ ถ้ามันหมายถึงความมีคุณค่าต่อสิ่งที่ทำ แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำไปแล้วไม่มีสาระ นั่งดูบอลมีสาระหรือเปล่า? นั่งกินเบียร์ นั่งดูผู้คนตามป้ายรถเมล์มีสาระมั๊ย นั่งพิมพ์ blog เรื่อยเปลื่อยหล่ะ สาระมันอยู่ตรงไหน ถ้าสาระคือการได้ทำ ได้คิด ได้พูด อย่าเที่ยวไปหาว่าใครทำอะไรไร้สาระหล่ะ
Monday, February 05, 2007
ซาวอะเบ๊า
นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลเสียง ลักษณะเป็นเส้นบางๆ กว้างราวๆ 6-7 มิลลิเมตร บรรจุลงในตลับเรียกกันติดปากคุ้นหูว่าเทปคาสเส๊ด ในยุกต์ที่เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็น ipod เครื่องเล่น MP3, MP4 หรือแม้แต่แต่โทรศัทพ์มือถือที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราติดต่อสื่อสารกันได้ แม้อยู่ที่สถานที่ที่ควรจะได้รับความสงบก็ มันก็ผลักเราออกจากสรรพสิ่งรอบข้างด้วยความสามารถในการเล่นเพลงให้ฟัง ทุกๆ วันไม่ว่าจะเป็นบนรถเมล์ รถไฟฟ้า ในลิฟ ที่ไหนๆ ก็ต้องปรากฎคนผู้ที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างนอกจากเสียงจากเจ้าหูฟังสองข้างที่ยัดเยียดเข้าไปยังรูหู หรือที่ถูกต้องเป็นเช่นนั้น ในเมื่อคนรอบข้าง มันก็หาใช่คนรู้จักกับเรา แต่เป็นใครก็ไม่รู้? ผมคงเป็นพวกชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน เพียงเพราะใครก็ไม่รู้รอบข้างมันเปลงเสียงเป็นภาษาที่ผมฟังรู้เรื่อง สิ่งที่เห็นได้ยินมันเป็นความน่าสนใจมากกว่าเพลง ที่เราไปเลือกเปิดฟังเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าฟังเพลงผมก็มักจะเลือกฟังจากวิทยุ ด้วยเหตุนี้แหละครับ ทำให้ผมได้มีโอกาสไปพอคนที่ยังใช้เครื่องเล่นที่ตอนเด็กๆ ผมเรียกมันว่าซาวอะเบ้าอยู่ เสียงของการยัดตลับเทปลงไป เสียงปิดฝา แมคแคนิค ของปุ่มกดมันเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย แม้นมันจะส่งมาจากคนที่ผมไม่รู้จักด้วยซ้ำ ...
Subscribe to:
Posts (Atom)