Saturday, March 29, 2008

หนึ่งวันที่ดูจะวุ่นวายกว่าปกติ

วันนี้ดูวุ่นวายพิลึกแฮะ ตั้งใจจะออกไปซื้อ SD การ์ดที่พันทิพ พอดีเพื่อนจะไปซื้อ wireless router เลยถือโอกาศไปเป็นเพื่อน อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งรถเมล์ หลบร้อนไปได้ แถมยังมีเพื่อนคุยอีกต่างหาก โทรไปถามๆ คนที่เคยซื้อ ปรากฏว่า true shop ถูกสุด ถูกกว่าร้านที่พันทิพย์อีก โทรไปถามพี่ที่ office ถึง true shop ว่าที่ central ปิ่นเกล้ามันมี true shop หรือเปล่า พี่คงงง ผมก็งง แต่ก็ไม่รู้จะโทรถามใคร บ้านพี่ก็ไม่ได้อยู่แถวนั้น แต่ก็สืบเสาะจาก internet มาให้ได้ว่า true shop ที่ central ปิ่นก็มีเหมือนกัน สุดท้ายก็ได้มา นัดคนในเนทไว้จะดูเลนส์ ตอนห้าโมงครึ่ง ทำท่าจะไปไม่ทัน ดีได้เพื่อนไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า เลยไปตรงเวลา และได้เลนส์ 17-50 มาแทนเจ้า 24-70 ได้ wide เพิ่มมา แต่ก็เสียระยะเทเลไปดูจะยังปรับตัวกับระยะไม่ได้แฮะ ไม่เป็นไร เวลามันจะสร้างความเคยชินให้เราเอง กลับเข้ารถไฟฟ้า ไปฟอร์จูน (ยังไปสู่เป้าหมายหลักคือ SD) ไปเดินจนเมื่อน่อง สุดท้ายไม่ซื้อ เพราะจ่ายค่าเลนส์ไปแล้วใจแป้วๆ พิกล ถ้าจะต้องจ่ายค่า SD อีก พรุ่งนี้ยังต้องจ่ายให้น้องอีก มันไม่จำเป็นต้องใช้อะไรหรอก เจ้า SD เพียงแต่อยากได้มาทดสอบ กับอุปกรณ์ DIY ที่สร้างขึ้นมา ตัดสินใจนั่งรถเมล์กลับ นึกขึ้นได้ว่าอาหารหมดห้องแล้ว เลยต้องแวะ bigC ซะหน่อย ได้วัตถุดิบมาพอสมควร ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมไม่ไปสั่งก๊วยเตี๋ยวมากิน มันก็เสร็จๆ ไปแล้ว ไม่ต้องหุงข้าว ไม่ต้องทอดไข่ อุ่นไก่ วุ่นวายพิลึก กว่าจะกลับถึงห้องก็ล่อไปสองทุ่มเศษๆ คนอื่นอาจจะเป็นวันที่ปกติธรรมดา แต่ทำไมเรารู้สึกมันวุ่นวายเคลื่อนไหว มากกว่าปกติ เหมือนหอยทากกลิ้งลงเนินยังไงไม่รู้ ยังงงตัวเองกับ mail ที่ส่งออกไปเมื่อวานจริงๆ เลยแฮะ นึกไม่ออกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วถ้าส่งไปตั้งแต่หลายเดือนก่อน หนึ่งเดือนก่อน อาทิตย์ก่อน หรือวันก่อน มันจะต่างกันยังไงนะ เอาน่าอย่างน้อยก็บอกให้เค้ารู้ เพราะหลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้ซึ่งก็คือเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้น.. ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ ระยะทาง และความห่าง มันคงผลักความรู้สึกของเราให้จางไป ในทีสุด ...

1 comment:

Unknown said...

ถ้าไม่ได้เขียนไว้ที่ Blog ก็คงไม่ได้เปิดอ่านไปอีกหลายชาติอ่ะนะคุณ ...
ถ้าเริ่มจากการเป็นเพื่อนดูหนังก็ไม่เลวนะ ลองหาเรื่องที่อยากดูตรงกันซักเรื่องดีก่า ^^

เคยมีคนบอกเรานะว่า "เค้าเชื่อในการเปลี่ยนแปลง" มันหมายความว่า อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีอะไรแน่นอน เลยจะบอกว่า ทุก ๆ นาทีอะไรมันก็อาจจะเปลี่ยนได้ ไม่ใช่แต่ว่าจิตใจของคนอื่นเพียงอย่างเดียว จิตใจของตัวเราเองก็ด้วย การจะบอกถึงปัจจุบันหรืออนาคตมันถึงไม่สามารถจะบอกได้ แต่ถ้าอยากลองทำอะไรก็ควรจะลองดูอ่ะนะ จิงไหม? ลองแล้วอาจจะรู้คำตอบเผื่อจะบอกตัวเองได้ก็ได้อ่ะเนอะ

PS.
จริงๆที่หอมันเข้าไปอ่าน hotmail ไม่ได้ ไม่รู้เป็นอะไร จะเขียนตอบก็ขี้เกียจมานั่งคิดในสภาพของอารมณ์สถานที่ที่เป็น office ตอบไว้แค่นี้ก่อนละกัน
เจอกันเมื่อมีโอกาสค่ะ