บางทีปัญหาของความไม่เข้าใจกันอาจจะเกิดจากการรับข้อมูลเพียงด้านเดียวอักคติที่มีต่อผู้ให้ข้อมูล หรือความน่าเชื่อถือโดยรวมชองผู้ให้ข้อมูลนั้นๆ ประสบการณ์ต่อผู้ให้ข้อมูลและประสบการณ์ส่วนตัวต่อข้อมูลก็มีผล ต่อการตัดสินใจต่อข้อมูลที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น
ก. น. และ อ. คุยกันถึงเรื่องๆ นึง โดยที่ ก. และ น. เป็นเพื่อนกันข้อมูลมีการส่งผ่านระหว่าง ก. <--> อ. และ น. <---> อ. โดยที่ อ. ไม่รู้ว่า ก. และ น. ก็มีการส่งข้อมูล ความถูกต้องของข้อมูลจะถูกตรวจสอบได้สูงสุด หากเกิดความแตกต่างระหว่าง ก. <--> อ. และ น. <--> อ. การการเปรียบเทียบเนื้อข้อมูลที่ น. และ ก. ได้รับจาก อ. ส่วนข้อมูลจะบิดเบือนได้ถ้า ก. และ น. เตี๊ยมข้อมูลกัน และส่งให้ อ. และจะเกิดการบิดเบือนกลับไปยัง ก. และ น. ถ้าข้อมูลเริ่มบิดเบื่อนตั้งแต่ อ.
** สมมุติว่า อ. เชื่อใจ น. แต่มีอคติกับ ก. แล้วข้อมูลถูกพิจารณาจากบุคลที่ 3 ที่ไม่ใช่ ก. น. หรือ อ. คิดง่ายๆ
1.) ข้อมูลที่ได้จาก อ. เกิดการบิดเบือน จะเกิดขึ้นเมื่อ มีการเตี๊ยมข้อมูลระหว่าง ก. และ น. หรือไม่ก็เป็นข้อมูลที่ อ. สร้างขึ้นมาเอง
2.) ข้อมูลที่ได้จาก ก. หรือ น. ไม่สามารถเชื่อถือได้ในทันที เพราะอาจเกิดการบิดเบือนที่เกิดจากการเตี๊ยมกันได้
3.) ข้อมูลจากบุคคลที่ 3 ที่ต่อมาจาก ก. น. หรือ อ. โดยตรงอาจจะเกิดความพลาดได้เช่นเดียวกับข้อ 1 และ 2
- แล้วข้อมูลที่ถูกจะหาได้ยังไง?
คำตอบคือ อาจจะไม่มี หรืออาจจะได้รับข้อมูลที่ถูกในทันที
- สมมุติเราเชื่อ อ. แล้วข้อมูลนั้นไปตัดสิน น. และ ก.
ออกจะไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ ถ้าเราไม่พิจารณาข้อมูลอย่างเดียวกันที่ได้จาก น. และ ก.
- อย่างนี้ดูไม่ยุติธรรมกับ อ. มั๊ย
ไม่เชิงซะทีเดียว การได้ข้อมูลทั้งหมดจากทุกฝ่าย สามารถทำให้เราพิจารณาความเป็นจริงได้ดีกว่า ถึงท้ายที่สุด เราจะใช้สามัญสำนึกส่วนตัวในการตัดสินความถูกต้องของข้อมูลก็ตาม
- แล้วเกิดแต่ละคนพูดมาไม่เหมือนกัน?
มันยังดีเสียกว่าไม่ให้โอกาสเค้าได้นำเสนอข้อมูล แม้นเราจะไม่เชื่อ แต่เราก็ไม่ควรจะไม่ฟัง
- อย่าพยายามใช้ข้อสอบแบบบรรยายกับ อ. ไปเปลี่ยนเป็นตัวเลือก สำหรับ น. หรือ ก.
เช่น อ. เล่าว่าเมื่อวันเสาร์ ก. มาเล่าให้ฟังว่า ...
แล้วเอาไปตรวจสอบโดยไปถาม ก. หรือ น. ว่า เมื่อวันเสาร์ ได้คุยกับ อ. หรือเปล่า (โดยให้ ก. หรือ น. ตอบได้เพียงว่า คุย หรือไม่คุย) การที่ น. หรือ ก. ไปคุยกับ อ. ไม่ได้พิสูจน์ว่าทุกอย่างที่ อ. บอกมา เป็นความจริง
บางทีการโดนตำหนิมันก็แย่แล้ว การไม่บอกด้วยว่าทำผิดอะไรมันเลวร้ายกว่า โจทก์ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยรับทราบ เพื่อให้จำเลยโต้แย้ง หรือแม้แต่คำพูดที่ว่า "ผมรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง" ก็ไม่ได้หมายความว่า "ทุกอย่างที่ผมรู้มันเป็นเรื่องจริง"...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment