Thursday, August 23, 2007
เมื่อ พัดลม เสีย
ที่ห้องมีพัดลมอยู่สองตัวตัวนึงถือครองโดยน้องชายผม เป็นพัดลมที่มีขนาดแค่ 10 นิ้วได้มั้ง เดิมที่มันเป็นของผมเอง ซื้อมาใช้สมัยยังอยู่คนเดียว พอน้องชายมาอยู่ด้วยเลยยกให้มันไป แล้วตัวเองไปยืมเพื่อนมาใช้ พัดลมที่เพื่อนให้ยืมมันมีความบอกพร่องอย่างเดียวคือมันกดส่ายไม่ได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนมันไม่ใช้ แต่กลับใช้ตัวเล็ก (ขนาดเดียวกับที่ห้องผม) แต่ตัวที่มันให้ผมเอามาใช้ มันขนาดสัก 16 นิ้วได้ (มันคือขนาดของใบพัดกระมัง ผมเดาเอา) ยี่ห้อ Hatari ซะด้วย มันทนจริงๆ ยอมรับ ทนจนเจ้าตัวเล็กที่ยกให้น้องชายไปใช้ ต้องมีอันเป็นไปก่อน อันนั้นยี่ห้อโนเนม ใช้มาได้สามปีก่อนจะลาโลก ผมถือว่ามันทำหน้าที่ของมันดีที่สุดแล้ว เอามันไปตั้งข้างถังขยะโดยไม่ยี่หระอะไร เมื่อเสียก็ต้องซื้อใหม่ตามระเบียบ ได้โอกาสไปเยือน BigC อีกครา ตรงดิ่งไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า BigC วงศ๋สว่าง ผมไม่ได้ย่างกรายมานานเป็นปีๆ หลังๆ มีการปรับปรุงใหม่ ดูจากภายนอกดูดีเลยแหละ แต่ภายใน ผมไม่คิดว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ที่สำคัญแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ชั้นสองไม่ห่างจากที่ที่มันเคยอยู่มากนัก เมื่อไปถึงพบพัดลมวางเรียงกันอยู่ เกือบๆ สิบตัวได้ ขนาดใบพัดก็ตั้งแต่ 12,14,16 จนภึง 18 นิ้ว มี 3 นี่ห้องให้เลือก Mira, Imaflex แล้วก็ Hatari (ที่ผมตั้งใจมาซื้อ) แต่ราคา Hatari แพงโดดกว่าชาวบ้านพอสมควร เลยเปลี่ยนใจ imaflex ก็ได้ฟะ ชื่อก็คุ้นๅ บ้าง แต่ทันทีที่พนักงานขายมาถึง เค้าบอกผมว่า imaflex กับ mira ผลิตจากโรงงานเดียวกัน ราคาก็ถูกว่า (นิดหน่อย) แต่ก่อนเค้าจ้าง mira ทำให้ ก่อนที่ mira จะทำ brand ของตัวเอง ผมบอก "Mira ผมไม่เคยได้ยินชื่อ" เค้าบอก "พี่ชิงในชิงร้อยชิงร้านไง" ดูไม่ได้ดูรายการ tv ปกติมาจะปีกว่าแล้วเลยเถียงไม่ได้ เค้า เลยได้ที อัดผมต่อ "เนี๊ยพี่ ประหยัดไฟเบอร์ 5 เหมือนกัน" ก่อนที่จะขยับคอขึ้นๆ ลงๆ "คอก็แข็งแรง รับรองล้มคอไม่หัก" ต่อด้วย "เนี๊ยพี่ผลิดที่แถวๆ สมุทรปราการเอง มีตรา Thailand Best Buy ด้วย" (นึกในใจ ไอ้ Thailand Best Buy มันคือตราวสินค้าห่วย ไม่ใช่เหรอวะ??) ยังไม่พอ มันพร่ามต่อ "ตัวนี้ลมแรงกว่า พี่ลองไปเปิดเทียบดูได้เลยแต่ละตัว" อืมม มันแรงจริงๆ ผมเห็นว่า imaflex มีประกัน 2 ปีติดอยู่ เลยบอกไปว่า "แต่ตัวนี้ประกันสองปีนะครับ" มันรีบแย้ง "Mira ก็ประกันปีนึงนะพี่" (ผมงงเลย มึงไม่มีอะไรจะอ้างแล้วหรือเนี้ย?) ผมเริ่มรำคาญเลยบอกมันไป "ผมเอา imaflex ละกัน" มันบอก "พี่แต่ตัวนี้ทางเราไม่ดูแลนะครับ" ผมงง "ไม่ดูแลคืออะไรครับ?" , "ยี่ห้อพวกนี้ พนักงานขายเค้าไม่มี ทำให้ไม่มีคนดูแล ถ้าเสียก็ไม่มีคนดูแลให้พี่" โอ้ว พระเจ้า มันเล่นมุขนี้เลยเหรอเนี้ย ไม่มีคนดูแล ผมเข้าใจเค้านะ คืออาจจะต้องเอาไปซ่องที่ศูนย์เอง แต่ bigC ไม่ได้รับภาระพวกนี้ให้ ใครสอนการขายเอ็งมาวะเนี้ย (ผมนึกในใจ) เอาวะ อยากขายขนาดนั้น ก็ซื้อให้ตัวนึง นึกซะว่าเงินหาย 500 (ราคามัน 529) แล้วเก็บพัดลมได้ตัวนึง จัดแจงใส่กล่องลงมาจ่ายตังที่ชั้น 1 จ่ายเสร็จแบกกล่องออกมาถึงกับตะลึง มีเทศกาลลดราคาพัดลม 16 นิ้วแค่ 399, ทำใจนึกเสียว่า เราไม่รอบคอบเอง ซื้ออะไรควรจะเดินให้ทั่วก่อน แบกพัดลมขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยความช้ำใจนิดหน่อย ถึงห้องประกอบเสร็จทดสอบเปิด โอ้ว... ไม่นะ รพะเจ้า ความแรงของมันมีปัญหากับผมเสียแล้ว คือมันไม่เงียบครับ แค่เบอร์ 1 มันแรงพอๆ กับเบอร์ 3 ของอันเดิม เบอร์สามไม่ต้องพูดถึง ผมคงไม่ได้มีโอกาสใช้แน่ๆ นอกเสียจากเสื้อผ้าไม่แห้ง เศร้าซื้อแพงก็แย่แล้ว ความแรงยังเป็นปัญหาซะอีก คิดน้อย ทำเร็ว ก็เป็นเช่นนี้แหละ คนเรา ....
Sunday, August 05, 2007
A lot like Love
วันนี้ได้มีโอกาสดูหนังที่อยากดูมานาน เสียดายไม่ได้ดูแต่แรก เปิดมามันก็เลยเวลาฉาย (ของ UBC) ไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ปกติถ้าไม่ทันอย่างนี้ก็มักจะเลยไปดูอย่างอื่น แต่เรื่องนี้เกรงว่ามันจะไม่ได้ออกจอบ่อย เป็นหนังตั้งแต่ปี 2005 ไม่มีที่มาที่ไป ไม่เคยมีใครมาเล่าเนื้อเรื่องให้ฟัง เป็นหนังที่อยากดูเพราะชอบชื่อเรื่องเท่านั้นเอง เป็นหนังของความรักที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าที่คู่จะลงเอยกันได้ ความรู้สึกที่ติดค้างในใจมันทำให้การก้าวเดินไปข้างหน้าเป็นไปได้อย่างไม่ปกติสุขนัก ในบางช่วงเวลาเกิดคำถามขึ้นในใจ เขาใช่คนที่เรารักหรือเปล่านะ นางเองถามพระเอกว่า "คุณรักเธอไหม" พระเองตอบ "Well, if it wasn't love, it was a lot like it." บทพูดที่ได้รับการแปลจาก UBC คือ "ผมคิดว่าผมรักเธอนะ แต่ถ้ามันไม่ใช่ความรัก มันก็เป็นอะไรที่ไกลเคียงความรักมาก" บางครั้ง เราไม่รู้หรอกว่าความรักคืออะไร แต่เรารู้สึกว่าถ้ามันใกล้เคียง ถ้าเราอยากให้ใครสักคนมีความสุข เค้าอยู่ในความคิดของเราเสมอ เค้าเป็นคนแรกที่เรานึกถึง เป็นคนที่เราอยากเราอะไรต่อมิอะไรให้ฟัง รู้สึกว่าเค้าเข้าใจเรา มันจะเป็นความรักไหมนะ ถ้ายังไม่ใช่ มันก็คงใกล้เคียงเลยแหละ หนังโรแมนติกทีเดียว เพลงก็เพราะ (ไปแอบหา OST มาฟังแล้ว หุหุ) พูดถึงความรัก ช่วงนี้ชอบเพลงของนักร้องสองกลุ่มมาก เพลงแรกก็ "ใครบางคนจากบนฟ้า" เพลงจาก Flure เรื่องราวของความรักที่สวยงาม ใครกันนะส่งเธอลงมาให้เจอเรา อีกเพลงก็ "เข้ากันดี" ของ Scrubb คนแบบไหนที่คุณต้องการ ถ้าไม่ใช่คนที่เข้ากับคุณได้ดี ไม่ได้กำลังมีความรักอะไรหรอก เพียงแต่ดูหนังแล้วมัน in ก็เท่านั้น ....
Subscribe to:
Posts (Atom)