Thursday, September 28, 2006

เกี่ยวกับ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์

มีโอกาสได้อ่านหนังสือของคุณ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ "ยามเช้าของชีวิต" ณ วันที่บันทึกผมอ่านไปได้เพียง 20% ของเล่มเท่านั้นเอง แต่หลายๆ อย่างชวนให้ชื่นชอบแง่มุมความคิดของนักเขียนทั่นนี้เอาการ มีโอกาสศึกหาหาข้อมูลงานเขียนของท่าน จึงได้ทราบว่า ท่านเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม งานเขียนของท่านก็ยังคงอยู่ และผมคงจะติดตามผลงานเก่าๆ ของท่านมาอ่านอีก ท่านอายุมากกว่าผม แต่ก็ไม่มากจนเรียกว่าคนคนละยุกต์ มุมมองต่ออะไรหลายๆอย่าง ทำให้ผมสามารถระลึกถึงความทรงจำในวัยเด็กได้ ผมขอจดบันทึกรายชื่อหนังสือของท่านไว้ ณ ที่นี้ เพื่อหามีโอกาสพบเจอ ผมจะได้จำได้ว่า ผมยังอยากจะอ่านชีวิตของท่าน ผ่านหนังสือของท่าน ขอจงสู่สุขติ เทอญ

เรียงหนังสือและผลงาน
-ป่าน้ำค้าง (2532)
-สะพานขาด (2534)
-คนใบเลี้ยงเดี่ยว (2535)
-แผ่นดินอื่น (2539)
-บันทึกจากหุบเขาฝนโปรยไพร (2544)
-ยามเช้าของชีวิต (2546) **
-โลกหมุนรอบตัวเอง (2548)

Thursday, September 21, 2006

เห็นเค้าเขียน เลยอยากเขียนบ้าง ก็เท่านั้น

ความห่วงใย อาจเชื่อได้ ในแววตา
คำสัญญา อาจเชื่อได้ ในน้ำเสียง
ความจริงใจ อาจจะไม่ต้องการ การเรียบเรียง
ใช้แค่เพียง "เวลา" พิสูจน์มัน ...

รัฐประหาร ด้วยรอยยิ้ม

ในช่วงชิวิตนึง ก็ได้มีโอกาสประสบเหตุการรัฐประหารที่อาจจะไม่เกิดขึ้นอีก หรือเกิดก็อาจจะไม่ใช่แบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจทีประชาชนแห่แหนไปถ่ายรูปกับรถถัง (โดยธรรมชาติ มันน่าจะแฝงไว้ด้วยความทะมึนและน่าเกรงขาม) เหตุการผ่านไปได้ด้วยดี ก็น่ายินดีด้วย นอกจากจะเป็นรั้วของชาติ ในยามสงครามแล้ว ในยามที่มีสภาพวะแตกแยกของประชาชน คราวที่ทหารเป็นรั้วชองประชาธิปไตยด้วย โชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดในประเทศนี้ ...

Monday, September 18, 2006

ทุกสถานการณ์มีทางออก

เมื่อถึงสภาวะคับขัน กดดันคุณด้วยอารมณ์โกรธเคือง ขุ่นหมอง ทางออกที่มองเห็นดูจะมุ่งไปทางเดียว คือ เข้าสู่สภาวะแตกหัก ไม่ว่าคู่กรณีจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม อาจจะเป็นการแตกหักระหว่างคุณกับเค้า โดยที่เค้าไม่อาจจะรู้ตัวแม้แต่น้อย แต่คุณเลือกที่จะไม่ยอมเข้าไปเจอสถานการณ์แบบนี้อีกแล้ว ไม่ว่าในอนาคตมันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ คุณก็ตัดสินใจไปแล้ว ไม่รู้เรื่องแบบนี้จะเยียวยาได้ด้วยเวลาหรือเปล่า ถ้ามีคนบอกว่าใจเย็นๆ มันต้องเย็นนานสักแค่ไหน? หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ไม่รู้คุณเคยเป็นหรือเปล่า เหตุการณ์บางอย่างมันทำให้คุณตัดสินคนๆ นึงว่าเป็นคนอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้น แล้วก็เชื่อว่าเค้าต้องเป็นคนอย่างนั้น ไม่รู้จะทำยังไง ปล่อยให้อารมณ์มันชักนำแล้วกัน ขี้เกียจคิดเข้าข้างคนโน้นคนนี้ ขี้เกียจเที่ยวหาเหตุผลให้คนโน้นคนนี้ เอาเป็นว่า ถ้ามันดีกับเรามันคือคนดี ถ้ามันทำให้เราแย่ก็อย่าไปยุ่งกับมัน ก็เท่านั้น เฮ้ออ ชีวิต ...

Friday, September 15, 2006

หนังสือที่น่าอ่าน

ไล่อ่านกระทู้จากพันทิบ พบว่าหนังสือสามเล่มนี้น่าในใจ จดไว้ก่อน พอเห็นเมื่อไหร่ คงได้มาครอบครอง :)

"หยุดความเลวที่..ไล่ล่าคุณ" ของ พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน
A walk to remember - แปลภาษาไทยโดยจิรนันท์ พิชปรีชาว่า "ก้าวรักในรอยจำ"
"ความสุขของกะทิ" โดย คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ

Blog ร้าง

ไม่ใช่ไม่มีอะไรจะเขียน แต่ไม่รู้จะไปเขียนที่ไหนดี ไอ้ที่ไว้ให้ blog มันก็เยอะแยะหลากหลายที่ ช่วงนี้มีกิจกรรมใหม่สดๆ ซิงๆ คือการเป็นช่างภาพสมัครเล่น (แต่ก็จริงจังอยู่ไม่น้อย) ได้มาแล้วครับ Canon 350D ทำร่วงไปแล้วด้วย เห้อ ยังเป็นคนสะเพร่าอยู่ไม่หาย ถึงจะไม่ค่อยทำอะไรหายบ่อย แต่การปล่อยให้มันทรุดโทรมกับเรา บางทีให้เค้าไปหาสภาพแวดล้อมที่สดใสน่าจะดีกว่า อ้าวว .. ไปเรื่องนั้นจนได้ ...